1. ชื่อโครงงาน การบีบอัดข้อมูล
2. ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
3. ผู้จัดทำโครงงาน นางสาวโนรมา นามสกุล สะแปอิง
4. ครูที่ปรึกโครงงาน อาจารย์ แวลีเยาะ นามสกุล เจะสนิ
5. ระยะเวลาดำเนินงาน
ตั้งแต่วันที่ 1
6. แนวคิด ที่มาและความสำคัญ
การบีบอัดข้อมูล (data compression) เป็นสาขาวิชาหนึ่งในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หมายถึง การศึกษาวิธีการในการจัดเก็บข้อมูล ที่ทำให้ใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บน้อยลง
การบีบอัดข้อมูล มีความสำคัญในระบบการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากทำให้เก็บหรือรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น โดยใช้เนื้อที่เท่าเดิม (คำว่าเนื้อที่นี้ อาจจะเป็นเนื้อที่จัดเก็บข้อมูล หรือเนื้อที่ในช่องสัญญาณก็ได้)
การบีบอัดข้อมูลแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ตามคุณภาพของข้อมูลที่ถูกบีบอัดแล้ว คือ
- การบีบอัดข้อมูลแบบไม่สูญเสีย (lossless data compression) เช่น การบีบอัดข้อมูลแบบ LZW ฯลฯ
- การบีบอัดข้อมูลแบบสูญเสียบางส่วน (lossy data compression) เช่น การบีบอัดภาพแบบ JPEG, การบีบอัดเสียงแบบ MP3 ฯลฯ
- การบีบอัดข้อมูลแบบไม่เกิดความสูญเสีย (lossless data compression)การบีบอัดข้อมูลแบบนี้ ข้อมูลต้นฉบับกับข้อมูลที่บีบอัดแล้วคลายออกมาจะเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน เช่น การบีบอัดข้อมูลเสียงที่ต้องการคุณภาพของเสียงเหมือนต้นฉบับ การบีบอัดภาพดิจิตอลที่ต้องการคุณภาพเหมือนต้นฉบับ การบีบอัดวีดีโอ การบีบอัดเอกสาร Microsoft word ซึ่งปลายทาง จะต้องได้รับข้อมูลที่เหมือนเดิม เพียงแต่จะต้องมีการ Decompress ข้อมูลเสียก่อน
-
การบีบอัดข้อมูลแบบสูญเสียบางส่วน (lossy data compression)
วิธีการบีบอัดแบบเกิดความสูญเสียจะมีแนวคิดต่างกันไป โดยใช้หลักว่าความผิดเพี้ยนของข้อมูลเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เช่น ตาของมนุษย์ไม่สามารถแยกความแตกต่างของบางสีได้หมด ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลทุกสีทุกตำแหน่ง เก็บเพียงบางสีที่แยกความแตกต่างได้ก็พอ ดังจะเห็นตัวอย่างจากไฟล์ประเภท jpg ใช้การบีบอัดข้อมูลแบบ Lossy จะทำให้ได้ขนาดไฟล์ภาพที่เล็กลงมาก แต่ก็สูญเสียรายละเอียดบางอย่างไป (รายละเอียดที่เสียไปคือสีที่มนุษย์ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้) จะเห็นว่าการบีบอัดข้อมูลแบบ Lossy มักจะใช้กับข้อมูลที่มนุษย์รับรู้ อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ ไฟล์เสียงประเภท mp3 ซึ่งทำการตัดเสียงในย่านความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินออกไป
7. วัตถุประสงค์
1 เพื่อให้มีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้น
2 เพื่อประหยัดพื้นที่ของฮาร์ดิสเมื่อเก็บข้อมูล
3 เพื่อรักษาความลับของข้อมูล ข่าวสาร
8. หลักการและทฤษฏี
WinRAR สามารถบีบอัดข้อมูลสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับข้อมูลมัลติมีเดียไฟล์เพลง ไฟล์หนัง ไฟล์เอกสารต่างๆ ครอบคลุมสามารถแตกไฟล์ มีฟังก์ชันมากมาย เช่น การตั้งค่ารหัสผ่าน, การเพิ่มข้อมูล แม้แต่การซ่อมแซมความเสียหายของข้อมูลและการล็อคเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม และจะเก็บข้อมูลที่มีการอัพเดทครั้งล่าสุด สามารถแบ่งไฟล์ จากขนาดใหญ่ๆให้เป็นหลายๆไฟล์ได้ด้วย
ในวันนี้แมวโตะซอฟต์แวร์จะมานำเสนอวิธีการบีบอัดข้อมูลด้วย WinRAR ให้มีขนาดเล็กที่สุดซึ่งเชื่อว่าผู้ใช้งาน WinRAR มากกว่า 99% ไม่ทราบวิธีการนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีการตั้งค่าแบบง่ายๆก็ตาม
ซึ่งวิธีการตั้งค่าแบบนี้ทำให้สามารถบีบอัดไฟล์ด้วยอัตราส่วนการบีบอัดที่น้อยมากถึง 0% เลยทีเดียว ทำให้สามารถบีบอัดไฟล์จากขนาด 4.54GB เหลือเพียงแค่ 340KB เท่านั้น โอ้ววมันทำได้จริงหรือ ตอบว่าทำได้จริงๆครับ ด้วยวิธีการตั้งค่าที่แมวโตะซอฟต์แวร์จะมานำเสนอ เริ่มกันเลยครับ
ซึ่งวิธีการตั้งค่าแบบนี้ทำให้สามารถบีบอัดไฟล์ด้วยอัตราส่วนการบีบอัดที่น้อยมากถึง 0% เลยทีเดียว ทำให้สามารถบีบอัดไฟล์จากขนาด 4.54GB เหลือเพียงแค่ 340KB เท่านั้น โอ้ววมันทำได้จริงหรือ ตอบว่าทำได้จริงๆครับ ด้วยวิธีการตั้งค่าที่แมวโตะซอฟต์แวร์จะมานำเสนอ เริ่มกันเลยครับ
เริ่มด้วยการเปิดโปรแกรมขึ้นมาครับ แล้วเข้าไปที่ ตั้งค่า…
ไปที่แท็บ การบีบอัด > คลิกสร้างค่าที่ใช้ปกติ
ที่แท็บทั่วไป > ตั้งค่าตามภาพโล้ดดด
ไปที่แท็บ ขั้นสูง > คลิก การบีบอัด
ตั้งค่าตามภาพ > แล้วกด ตกลง > OK
เสร็จแล้วครับ วิธีการตั้งค่าง่ายๆ ทีนี้มาทดสอบกันดูครับว่ามันทำได้จริงๆไหม โดยไฟล์ที่จะใช้ทดสอบเป็นไฟล์ Windows 7 Fusion ที่เป็นที่ฮือฮามากว่าสามารถบีบไฟล์ให้เล็กลงขนาดนี้ได้อย่างไร คำตอบคือด้วยวิธีการตั้งค่าตามด้านบนครับ
จะเห็นว่าอัตราส่วนการบีบอัดเหลือ 0% (ยิ่ง % น้อยไฟล์ยิ่งเล็ก)
ขนาดหลังการบีบอัดเหลือเพียง 340KB เท่านั้น
แต่เชื่อแน่ว่าจะเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมา เมื่อท่านได้นำวิธีการตั้งค่านี้ไปใช้ว่าทำไมมันถึงบีบอัดไฟล์ได้ไม่เล็กเหลืออัตราส่วนการบีบอัดแค่ 0% อย่างนี้ คำตอบคือการตั้งค่าแบบนี้ตัวโปรแกรมจะปรับลักษณะการบีบอัด หรือวิธีการบีบอัดไปตามลักษณะองค์ประกอบของไฟล์นั้นๆโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้บีบอัดไฟล์ได้เล็กที่สุดเท่าที่องค์ประกอบต่างๆของไฟล์จะเอื้อ สรุปคือจะบีบอัดได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับไฟล์ที่เราเอามาบีบอัดนั่นเอง ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะทำอย่างไรให้ไฟล์มีลักษณะที่เหมาะสมที่จะทำให้ WinRAR บีบไฟล์นั้นให้เล็กเท่านี้ได้
9. วิธีดำเนินงาน
1 คิดหัวข้อที่จะนำเสนออาจารย์
2 หาข้อมูลเพื่อที่จะทำโครงงานเกี่ยวกับการบีบอัดข้อมูล
3 ลงมือปฏิบัติ
10. ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน/เดือน/ปี
|
กิจกกรรม
|
ผู้รับผิดชอบ
|
9/11/60 |
จัดการกับระบบ gmail ของตัวเอง
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
16/11/60 |
เริ่มสร้าง web blog : www.biogger.com
| นางสาวโนรมา สะแปอิง |
23/11/60 |
หาหัวข้อโครงงานตามตัวอย่างจากบนเว็บไซต์ต่างๆ
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
30/11/60 |
เพิ่มเติมเนื้อหาในโครงงานบนเว็บบล็อก
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
7/12/60 |
หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเติมเนื้อหาในโครงงานเว็บบล็อก
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
14/12/60 |
เพิ่มภาคผนวก
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
21/12/60 |
ตรวจสอบเนื้อหาของโครงงานของทั้งหมด
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
28/12/60 |
เนื้อหาในโครงงานเสร็จสมบูรณ์-พร้อมเผยแพร่
|
นางสาวโนรมา สะแปอิง
|
11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1 เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับโปรแกรมการบีบอัดข้อมูล
2.เพื่อให้ผู้คนมีความสนใจโปรแกรมการบีบอัดข้อมูล
3
12. เอกสารอ้างอิง
http://sosuked.blogspot.com/2012/04/blog-post.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น